นายวินัย ทองรัตน์ กรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ การกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า คิกบ็อกซิ่ง เป็นกีฬาที่ได้การยอมรับในระดับสากล ซึ่งล่าสุดคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ได้ลงมติรับกีฬาคิกบ็อกซิ่ง และสมาคมคิกบ็อกซิ่งโลก อย่างเป็นทางการแล้ว และมีความเป็นไปได้ที่จะบรรจุให้มีการแข่งขันในโอลิมปิกเกมส์ ในอนาคต ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ สมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย ได้จัดการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทย ขึ้นเป็นครั้งแรก ทำให้กีฬาประเภทนี้ได้รับความสนใจจากคนไทยมากขึ้น “โครงการ ปรับ เปลี่ยน ปลุก ปั้น” จึงนำกีฬาคิกบ็อกซิ่ง มาฝึกทักษะให้กับเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการที่ รร.ห้วยต้อนพิทยาคม จ.ชัยภูมิ

“โครงการ ปรับ เปลี่ยน ปลุก ปั้น ครั้งนี้จัดเป็นครั้งที่ 2 โดยได้เชิญ วราพร ใจเที่ยง นักกีฬาคิกบ็อกซิ่งทีมชาติไทย เจ้าของ 1 เหรียญเงิน ในซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่เวียดนาม มาร่วมฝึกสอนเยาวชน และร่วมพูดคุยเพื่อสร้างแรงบันดาลใจสู่การเป็นนักกีฬามืออาชีพ พร้อมกันนี้ยังมีนักกีฬาคิกบ็อกซิ่งที่มีประสบการณ์อีกหลายคนมาร่วมฝึกสอนด้วย อาทิ ประมวลศักดิ์ โพธิ์สุวรรณ อดีตแชมป์ WBO เอเชีย 2 สมัย, สมศักดิ์ ต๊ะสิทธิ์ แชมป์โลกมวยสากลของ WBA รุ่นซูเปอร์แบนตั้มเวต นอกจากนี้ โครงการ ปรับ เปลี่ยน ปลุก ปั้น ยังได้มอบอุปกรณ์กีฬา และทุนการศึกษาให้กับโรงเรียน เพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนให้เยาวชนหันมาเล่นกีฬามากขึ้นอีกด้วย

สำหรับ “โครงการ ปรับ เปลี่ยน ปลุก ปั้น” เป็นโครงการที่กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ กกทคำพูดจาก เว็บสล็อตใหม่ล่าสุด. จัดขึ้นเป็นปีแรก มีเป้าหมายที่จะสร้างพื้นฐานการเล่นกีฬาที่ถูกต้องและมีมาตรฐาน เพื่อนำไปสู่การสร้างสังคมคนรักกีฬา สามารถเพิ่มนักกีฬาระดับท้องถิ่น สู่ระดับจังหวัด และระดับชาติ ซึ่งโครงการในปีแรกนี้จะจัดกิจกรรมรวม 4 ครั้ง ที่โรงเรียน 4 แห่ง ในภาคกลาง, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, ภาคเหนือ และภาคใต้

โดยแต่ละแห่ง จะมีการฝึกทักษะชนิดกีฬาที่แตกต่างกัน โดยใช้กลยุทธิ์ปรับ เปลี่ยน ปลุก ปั้น คือ “ปรับ” พื้นฐานด้านกีฬาให้เยาวชนด้วยเกมกีฬาสันทนาการ “เปลี่ยน” อุปกรณ์กีฬาใหม่แทนอุปกรณ์กีฬาที่เสื่อมคุณภาพ “ปลุก” แรงบันดาลใจให้เยาวชนด้วยนักกีฬาต้นแบบ และ “ปั้น” ด้วยการมอบอุปกรณ์กีฬา และมอบทุนการศึกษาให้โรงเรียน